หมอชนะ สูบแบตโหดจริง?


Discliamer.

1. ทดสอบบนเครื่อง Samsung Galaxy Note 20 Ultra5G - OS: Android 11
2. ทดสอบจากตัวแปรที่ใกล้เคียงกัน เช่น ส่วนใหญ่อยู่ในตัวอาคาร สถานที่เดิม และเจอจำนวนคนไม่เยอะ
3. ทดสอบในมุมมองของผู้ใช้งาน (User) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับผู้พัฒนา
4. โพสนี้แสดงความคิดเห็นในด้านเทคนิคเท่านั้น

หมอชนะ สูบแบตโหดจริง?
แอปพลิเคชันสุดแรงเกาะเทรนด์ช่วงนี้คงหนีไม่พ้น หมอชนะ ที่มีคนพูดในเชิงบวก และลบมากมาย ซึ่งโพสนี้
ขอนำความคิดเห็นเชิงลบประเด็นนึงที่พูดถึงกันอย่างมากมายว่า “หมอชนะใช้งานแล้วโคตรกินแบตเตอรี่”
ซึ่งผมเองก็ใช้งานหมอชนะเหมือนกันเลยต้องพิสูจน์กันดูว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่?

มาพิสูจน์กัน
เริ่มต้นจากบนระบบของโทรศัพท์จะมีการเก็บข้อมูลการใช้งานแบตเตอรี่ของแต่ละแอปพลิเคชันแบบวันต่อวัน
ซึ่งสามารถดูย้อนหลังการใช้งาน 7 วันย้อนหลัง

รูปซ้าย: การใช้งานแบตเตอรี่ย้อนหลัง 7 วัน และ รูปขวา: การใช้งานแบตเตอรี่แบบละเอียดรายวัน

ผมได้ตั้งโจทย์เอาไว้ 2 ข้อที่จะนำมาวิเคราะห์ คือ
1. หมอชนะสูบแบตเตอรี่จริงหรือไม่ ?
2. หมอชนะ เวอร์ชั่นล่าสุดประหยัดแบตเตอรี่ขึ้นจริงหรือไม่ ?

เก็บข้อมูลการใช้งานแล้วมาวิเคราะห์กัน

จากตัวเลขที่ระบุในรูป มีดังนี้
1. จำนวนนาทีที่เปิดใช้งานแอปพลิเคชัน (เปิดแอพขึ้นมาดู) – (จากระบบ)
2. จำนวนนาที่ที่แอปพลิเคชันทำงานแบบ background เช่น ส่งข้อมูลไปอัปเดท location – (จากระบบ)
3. ปริมาณการใช้งานแบตเตอรี่ของแอปพลิเคชันโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การใช้งานแอพทั้งหมด – (จากระบบ)
4. เปอร์เซ็นต์การใช้งานของหมอชนะต่อนาที – (จากการคำนวณสูตร. 3 / (1 + 2) )
5. ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์การใช้งานของหมอชนะต่อนาที (จากการคำนวณค่าเฉลี่ยคิดจาก 3 วัน)
    *วันที่ 5 ไม่นำมาคำนวณเนื่องจากมีการอัปเดทหมอชนะเวอร์ชั่นใหม่บน Google Play ในช่วงเวลากลางวัน

สรุป
จะเห็นได้ว่าสามารถหาคำตอบให้โจทย์ของผมได้ทั้ง 2 ข้อ
1. หมอชนะไม่ได้สูบแบตเตอรี่โหดอย่างที่หลายๆ คนบอก เพราะดูจากการใช้งานแบตเตอรี่แล้ว
    เป็นแอปพลิเคชันที่มีการใช้งานแบตเตอรี่ต่อวันไม่มาก ซึ่งน้อยกว่าแอปพลิเคชัน Facebook มากมาย
    และจากรูป หมอชนะใช้งานแบตเตอรี่นาน 1 ช.ม. 11 นาที = เปิดแอพกล้องถ่ายรูปนานประมาณ 1 นาที
2. หมอชนะเวอร์ชั่นล่าสุด (เวอร์ชั่น 2.0.1) ประหยัดแบตเตอรี่ขึ้นจริง
    ดูค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์การใช้งานของหมอชนะต่อนาที (5) จากรูปจะเห็นได้ว่าเวอร์ชั่นใหม่ของหมอชนะ
    มีค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์การใช้งานของหมอชนะต่อนาที (5) ลดลง ซึ่งทำให้เห็นว่ามีการประหยัดการใช้งาน
    ของแบตเตอรี่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ (ส่วนนึงน่าจะมาจากการที่ตัด WFH Feature ออก)

สรุปอีกรอบจากความคิดเห็นส่วนตัว
1. หมอชนะใช้งานแบตเตอรี่ไม่เยอะอย่างที่หลายๆคนคิด อยากให้มาใช้งานกันเยอะๆ อย่างน้อยเราเอง
    ก็จะได้รู้ว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน เพราะว่าระบบจะมีข้อความแจ้งเตือนถ้าเรามีความเสี่ยงเนื่องจาก
    เข้าไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงหรือใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโควิท
2. ถ้าอัปเดทเวอร์ชั่นแล้วยังมีการใช้แบตเตอรี่สูง แนะนำให้ลบออก และติดตั้งใหม่อีกครั้ง
3. มีอีกประเด็นที่หลายๆ คนบ่นว่า ใช้งานแล้วเน็ตหมดเร็ว มีวิธีแก้ไขง่ายสุด คือ ลองอัปเดทเวอร์ชั่น

ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงปลอดภัยจากโควิทนะฮ๊าฟฟฟ